สธ.สงขลา เตือนระวังเด็กจมน้ำเสียชีวิตช่วงปิดเทอม ย้ำหลักการป้องกันและช่วยเหลือ “อย่าใกล้ อย่าเก็บ อย่าก้ม” และ “ ตะโกน โยน ยื่น”

         นพ.สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา ได้กล่าวว่า การจมน้ำเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของเด็กไทยซึ่งสูงกว่าทุกสาเหตุทั้งโรคติดเชื้อและไม่ติดเชื้อ ซึ่งในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา (ปี 2555 - 2564) โดยเฉพาะในเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จมน้ำไปแล้วถึง 7,374 คน เฉลี่ยปีละ 737 คน หรือวันละ 2 คน โดยเฉพาะในช่วงเดือน มีนาคม - พฤษภาคม เป็นเดือนที่เด็กจมน้ำเสียชีวิตมากที่สุด เพราะตรงกับช่วงปิดเทอมและช่วงฤดูร้อน เฉลี่ยเพียง 3 เดือน  มีเด็กตกน้ำ - จมน้ำ เสียชีวิตถึง 241 คน หรือวันละเกือบ 3 คน (ข้อมูลกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ณ วันที่  12 เม.ย. 2565) สำหรับสถานการณ์ประเทศไทยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ.2565-2565) มีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จมน้ำเสียชีวิตในช่วงฤดูร้อน (มีนาคม - พฤษภาคม) จำนวน 953 ราย เฉลี่ยวันละ 2 ราย สำหรับข้อมูลสถานการณ์เด็กจมน้ำในจังหวัดสงขลา ค่าเฉลี่ย 5 ปี ( 2560 – 2564) อัตราการเสียชีวิตต่อประชากรเด็กแสนคน อยู่ในช่วง 3.0 – 6.4 จัดอยู่ในกลุ่มจังหวัดเสี่ยงปานกลาง ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 31 ธ.ค. 2565 มีเด็กจมน้ำเสียชีวิตจำนวน 10 ราย พบในพื้นที่ อ.เมืองสงขลา 3 ราย อ.จะนะ 2 ราย อ.เทพา 2 ราย อ.หาดใหญ่ อ.สะบ้าย้อย และ อ.ควนเนียง อำเภอละ 1 ราย (ข้อมูลจาก Drowning Report) เป็นเพศหญิง ร้อยละ 60 เพศชายร้อยละ 40 กลุ่มอายุ 10 – 14 ปี เสียชีวิตสูงสุด 6 รายรองลงมาได้แก่กลุ่ม 5-9 ปี ช่วงเวลาที่เกิดเหตุ คือ 12.00 - 14.00 น. โดยสถานที่เสียชีวิตในจังหวัดสงขลาส่วนใหญ่ เกิดในแหล่งน้ำธรรมชาติ ได้แก่ ทะเล และแหล่งน้ำที่มนุษย์สร้างขึ้น ได้แก่ คู คลอง ฝาย และเขื่อน

        นพ.สงกรานต์ ไหมชุม ได้กล่าวย้ำว่า การป้องกันการจมน้ำสำหรับเด็กเล็ก อายุต่ำกว่า 5 ปี เน้นใช้มาตรการ  “อย่าใกล้ อย่าเก็บ อย่าก้ม” ดังนี้ 1) อย่าเข้าใกล้แหล่งน้ำ เพราะอาจลื่นพลัดตกลงไปในน้ำ 2) อย่าเก็บสิ่งของที่ตกลงไปในน้ำด้วยตนเอง ต้องให้ผู้ใหญ่ช่วยเก็บ 3) อย่าก้มหรือชะโงกลงไปในแหล่งน้ำ เพราะอาจหัวคะมำลงไปในน้ำได้ ส่วนกลุ่มเด็กโตเน้นห้ามไปเล่นน้ำกันเองตามลำพัง หากพบเห็นคนตกน้ำไม่ควรกระโดดลงไปช่วยเพราะอาจจมน้ำพร้อมกันได้ ควรใช้มาตรการ “ ตะโกน โยน ยื่น” ดังนี้ 1) ตะโกนเรียกขอความช่วยเหลือ 2) โยนอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้ตัวช่วยคนตกน้ำเกาะจับพยุงตัว เช่น ถังแกลลอนพลาสติกเปล่าปิดฝา หรือวัสดุที่ลอยน้ำได้ และ 3) ยื่นอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้ตัว เช่น ไม้ เชือก เสื้อ ผ้าขาวม้าให้คนตกน้ำจับและดึงขึ้นมาจากน้ำ นอกจากนี้ ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องควรร่วมมืออย่างเคร่งครัดตามมาตรการป้องกันการเสียชีวิตจากการจมน้ำ โดยชุมชนควรร่วมดำเนินการสำรวจแหล่งน้ำเสี่ยง จัดการแหล่งน้ำให้ปลอดภัย เช่น  การสร้างรั้วกั้น ติดตั้งป้ายเตือน และเตรียมอุปกรณ์ช่วยคนตกน้ำไว้บริเวณแหล่งน้ำเสี่ยง ทั้งนี้ หากพบเห็นการจมน้ำสามารถขอความช่วยเหลือจากศูนย์นเรนทรโทรสายด่วน 1669 สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสายด่วนกรมควบคุมโรคโทร 1422

                                                                                                                                                            ***ฝ่ายสุขศึกษาและสื่อสารองค์กร/สสจ.สงขลา***

ลำดับ ชื่อไฟล์ ขนาดไฟล์ ดาวน์โหลด
แชร์
ข่าวประชาสัมพันธ์
หน้า 1 / 376